บาคาร่าออนไลน์
ufabetx3 เทคนิคเล่นบาคาร่า ใช้ได้จริง 2023 สูตรบาคาร่าฟรี 24 ชั่วโมง

สูตร บาคาร่า ฟรี Ufabetx3 เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้ผู้เล่นมีโอกาสเล่นบาคาร่าได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้เทคนิคที่มีประสิทธิภาพ ผู้เล่นสามารถเพิ่มโอกาสในการชนะ ยิ่งไปกว่านี้ แพลตฟอร์มยังมีสูตรบาคาร่าที่ใช้งานได้จริง ทำให้ผู้เล่นได้เปรียบที่พวกเขาต้องการเพื่อประสบความสำเร็จ ในขณะที่พวกเราก้าวไปสู่ปี 2023 Ufabetx3 ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบสูตรที่น่าไว้วางใจและทันสมัยที่สุดให้กับผู้ใช้ อีกทั้งแพลตฟอร์มยังใจกว้างพอที่จะแจกสูตรบาคาร่าฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ ด้วยน้ำเสียงที่เป็นมืออาชีพ Ufabetx3 พิสูจน์แล้วว่าเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงสำหรับผู้เล่นบาคาร่าตัวยง

Ufabetx3 เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียงซึ่งนำเสนอคำแนะนำที่ครอบคลุมเกี่ยวกับวิธีการเล่นบาคาร่าอย่างมีประสิทธิภาพ เว็บไซต์นำเสนอเทคนิคและกลยุทธ์ที่ทันสมัยแก่ผู้ใช้ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ในสภาพแวดล้อมการเล่นเกมในชีวิตจริง นอกจากนี้ Ufabetx3 ยังมีสูตรบาคาร่าที่ได้รับการสนับสนุนจากประสบการณ์หลายปีและผลลัพธ์ที่พิสูจน์แล้ว สูตรเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นมาอย่างละเอียดลออเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้สามารถเพิ่มการชนะของพวกเขาด้วยวิธีการที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ นอกนั้น แพลตฟอร์มยังให้บริการสูตรบาคาร่าฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีค่าและการสนับสนุนได้ทุกเวลาที่ต้องการ ด้วย Ufabetx3 ผู้เล่นสามารถยกระดับเกมบาคาร่าของพวกเขาไปสู่อีกระดับและประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในเกมที่น่าตื่นตาตื่นใจและน่าตื่นตาตื่นใจนี้

Ufabetx3 เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียงซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการผู้เล่นด้วยเทคนิคที่เป็นประโยชน์ในการเล่นบาคาร่า เว็บไซต์ยังมีสูตรบาคาร่าที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลในปี 2023 ในฐานะผู้ให้บริการกลยุทธ์บาคาร่าที่ไว้ใจได้ Ufabetx3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการแจกสูตรบาคาร่าฟรีตลอด 24 ชั่วโมง นี่คือข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการช่วยทำให้ผู้เล่นเพิ่มโอกาสในการชนะในเกมคาสิโนยอดนิยมนี้ ด้วยบริการระดับมืออาชีพและเชื่อมั่นได้ Ufabetx3 จึงกระโดดเด่นในฐานะแหล่งข้อมูลและแหล่งข้อมูลที่เชื่อมั่นได้สำหรับผู้เล่นที่ต้องการปรับปรุงแก้ไขเกมบาคาร่า

บาคาร่าพารวย แจกสูตรบาคาร่าฟรี

บาคาร่าพารวย แจกสูตรบาคาร่าฟรี

บาคาร่าเป็นเกมแห่งโอกาสที่ผู้คนหลายล้านคนชื่นชอบมานานหลายทศวรรษ เสน่ห์ของการทำกำไรอย่างมากมายในช่วงเวลาสั้นๆทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มนักเสี่ยงดวง บางคนอ้างถึงว่าได้พัฒนาสูตรเพื่อให้ชนะบาคาร่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพวกเขายินดีแจกฟรี อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าไม่มีวิธีรับประกันว่าจะชนะที่ Baccarat เพราะเหตุว่าเกมนี้ขึ้นอยู่กับโอกาสเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ สิ่งสำคัญคือต้องใช้สูตรบาคาร่าด้วยความระมัดระวังและใช้นิสัยการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ ดีที่สุดเสมอที่จะเล่นการพนันด้วยหัวที่มีระดับและอยู่ในขอบเขตของตนเอง แทนที่จะพึ่งพาแผนการ “ร่ำรวยเร็ว” ที่คาดประมาณ

บาคาร่าเป็นเกมแห่งโอกาสที่ผู้เล่นสามารถชนะรางวัลใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องรู้ดีว่าไม่มีกลยุทธ์หรือสูตรใดที่สามารถรับประกันการชนะในเกมนี้ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เล่นในการเข้าถึงเกมด้วยความคิดที่มีความรับผิดถูกใจและจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การอ้างสิทธิ์ในการรับประกันความสำเร็จผ่านการใช้สูตรบาคาร่าควรจะได้รับการติดต่อด้วยความสงสัย การให้สูตรดังกล่าวเป็นการผิดจรรยาบรรณ เนื่องจากอาจสร้างความหวังผิดๆและอาจนำไปสู่การติดการพนันได้ ในฐานะมืออาชีพในอุตสาหกรรม เราสนับสนุนแนวทางปฏิบัติด้านการพนันอย่างมีความรับผิดถูกใจ และสนับสนุนให้ผู้เล่นขอความช่วยเหลือหากจำเป็นจะต้อง

Baccarat เป็นเกมไพ่เดิมพันสูงที่ได้รับความนิยมมาหลายศตวรรษ เป็นที่รู้จักในด้านความเร็ว การจ่ายเงินสูง และรูปแบบการเล่นเชิงกลยุทธ์ แม้ว่าจะเป็นความจริงที่บาคาร่ามีสมรรถนะที่จะก่อให้คุณรวยได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเกมนี้ขึ้นกับโอกาสและโชค ไม่มีสูตรหรือกลยุทธ์ใดที่สามารถรับประกันการชนะได้ เหตุเพราะคำตอบของแต่ละมือถูกกำคราวดโดยโอกาสสุ่ม ระวังใครก็ตามที่กล่าวถึงว่ามีสูตรบาคาร่าที่เข้าใจผิดได้ เหตุเพราะสิ่งเหล่านี้มักเป็นการหลอกลวงที่ออกแบบมาเพื่อเอาเปรียบผู้เล่นที่ไม่สงสัย เพื่อให้ประสบความสำเร็จในบาคาร่า สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจกฎและกลยุทธ์ และเล่นอย่างมีความรับผิดถูกใจและอยู่ในขอบเขตของคุณ

บาคาร่า สูตรบาคาร่า บาคาร่าออนไลน์

บาคาร่า สูตรบาคาร่า บาคาร่าออนไลน์

บาคาร่าเป็นเกมไพ่ยอดนิยมที่มีการเล่นมาหลายศตวรรษ วันนี้ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ชื่นชอบการพนันทั่วทั้งโลก ด้วยการมากขึ้นของการพนันออนไลน์ ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินใจกับบาคาร่าได้จากบ้านของพวกเขาอย่างสะดวกสบาย สูตรบาคาร่า หมายถึงกลยุทธ์และเทคนิคต่างๆที่ใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะในเกมแห่งโอกาสนี้ สูตรกลุ่มนี้อิงตามสถิติและความน่าจะเป็น และสามารถช่วยทำให้ผู้เล่นตัดสินใจอย่างรอบทราบมากขึ้นเมื่อเล่นบาคาร่า ด้วยความพร้อมของบาคาร่าออนไลน์ ผู้เล่นสามารถเข้าถึงสูตรเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและใช้ประโยชน์ในการเล่นเกมเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

Baccarat เป็นเกมไพ่ยอดนิยมที่มีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศสและมีการเล่นมานานหลายศตวรรษ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกมดังกล่าวได้รับความนิยมในโลกคาสิโนออนไลน์ และผู้เล่นหลายคนสนใจที่จะค้นหากลยุทธ์ที่ชนะ ทำให้เกิดการพัฒนาสูตรบาคาร่าหรือระบบต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้เล่นเพิ่มโอกาสในการชนะ สูตรพวกนี้มักเกี่ยวข้องกับรูปแบบการติดตามในเกมและปรับกลยุทธ์การเดิมพันให้เหมาะสม ด้วยการเพิ่มขึ้นของคาสิโนออนไลน์ ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเกมบาคาร่าจากความสะดวกสบายในบ้านของพวกเขาเองและลองสูตรกลุ่มนี้ด้วยตัวคุณเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่มีวิธีรับประกันว่าจะชนะที่บาคาร่า และท้ายที่สุดแล้วเกมนี้ขึ้นกับโอกาส

บาคาร่าออนไลน์
lucabet888 ทดลองเล่นบาคาร่าออนไลน์ฟรีก่อนลงเงินจริง

ถ้าคุณกำลังพิจารณาที่จะลงทุนด้วยเงินจริงในบาคาร่า ขอแนะนำให้คุณลองเล่นเกมฟรีก่อน ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆโดยไปที่คาสิโนออนไลน์ที่มีชื่อเสียง เป็นต้นว่า lucabet888 ซึ่งคุณจะเจอกับเกมบาคาร่ามากมายที่ให้บริการฟรี เมื่อเล่นฟรี คุณจะได้รับประสบการณ์อันมีค่าและความรู้เกี่ยวกับเกมโดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินของคุณเอง สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาทักษะและกลยุทธ์บาคาร่าของคุณ เพื่อที่ว่าเมื่อคุณตัดสินใจลงทุนด้วยเงินจริง คุณสามารถทำได้ด้วยความมั่นใจ สละเวลาเล่นบาคาร่าฟรีเป็นแถวทางที่ฉลาดมากและมีความรับผิดชอบสำหรับผู้เล่นใหม่

Lucabet888 เสนอโอกาสพิเศษสำหรับผู้เล่นที่จะลองเล่นบาคาร่าก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง เราเข้าใจดีว่าหลายคนอาจลังเลที่จะทุ่มเงินที่ได้มาอย่างยากลำบากโดยไม่เข้าใจเกม ด้วยการเสนอบาคาร่าเวอร์ชันฟรี เราสนับสนุนให้ผู้เล่นเรียนรู้กฎ กลยุทธ์ และกลไกของเกมโดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยทำให้ผู้เล่นตัดสินใจได้อย่างหลักแหลมจริงๆ แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจและระดับทักษะของพวกเขาด้วย เราเชื่อว่าทุกคนควรเข้าถึงการเล่นเกมที่ยุติธรรมและโปร่งใส และเกมบาคาร่าฟรีของเราเป็นเพียงแต่วิธีหนึ่งที่พวกเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการดังกล่าว ลองเสี่ยงโชคกับ Lucabet888 และสนุกไปกับความตื่นเต้นของบาคาร่าโดยไม่มีข้อผูกมัดทางการเงิน

หากคุณกำลังมองหาที่จะลองเล่นบาคาร่า แต่ลังเลที่จะลงทุนด้วยเงินจริง lucabet888 ขอเสนอทางออกที่สมบูรณ์แบบ แพลตฟอร์มนี้อนุญาตให้ผู้เล่นเล่นบาคาร่าออนไลน์ได้ฟรี ทำให้พวกเขามีโอกาสสัมผัสกับเกมก่อนที่จะเดิมพันด้วยเงินจริง นี่เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนเริ่มต้นที่ต้องการทำความคุ้นเคยกับกฎและกลยุทธ์ของเกมโดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงิน ยิ่งไปกว่านี้ ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ยังสามารถได้รับประโยชน์จากการลองใช้กลยุทธ์ใหม่ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยง การเล่นบาคาร่าฟรีที่ lucabet888 ผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์อันมีค่าและความมั่นใจก่อนที่จะลงทุนด้วยเงินจริง

lucabet888 วิธีเล่นบาคาร่า

lucabet888 วิธีเล่นบาคาร่า

Lucabet888 เป็นแพลตฟอร์มคาสิโนออนไลน์ที่มีเกมมากมายให้ผู้เล่นได้เพลิน หนึ่งในเกมยอดนิยมบนแพลตฟอร์มคือบาคาร่า สำหรับผู้ที่ยังใหม่กับเกม Lucabet888 มีแนวทางการเล่นบาคาร่าที่ทำตามได้ง่าย วัตถุประสงค์ของเกมคือการทำนายมือที่ชนะระหว่างผู้เล่นและเจ้ามือ ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันได้ทั้งมือหรือเสมอ เกมนี้เล่นด้วยสำรับไพ่มาตรฐานและมูลค่าของไพ่จะถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อตัดสินมือที่ชนะ ด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนและอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของ Lucabet888 ผู้เล่นสามารถศึกษาวิธีการเล่นบาคาร่าได้อย่างง่ายดายและสนุกไปกับความตื่นเต้นของเกม

Lucabet888 เป็นแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ชั้นนำที่ให้บริการเกมคาสิโนมากมาย รวมถึงบาคาร่า ถ้าหากคุณยังใหม่กับเกม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจกฎพื้นฐานและกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ ในการเริ่มต้น คุณจะต้องวางเดิมพันในมือของผู้เล่น มือของเจ้ามือ หรือเสมอกัน วัตถุประสงค์ของเกมคือการมีมือที่ใกล้เก้ามากกว่าอีกมือหนึ่ง สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงค่าไพ่ต่างๆดังเช่นว่า ไพ่หน้าและเอซ และทราบดีว่าเมื่อใดควรเปิดไพ่ใบที่สาม ด้วยอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของ Lucabet888 และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ คุณสามารถเรียนรู้วิธีการเล่นบาคาร่าได้อย่างง่ายดายและเพลินใจไปกับประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าเร้าใจ

Lucabet888 มอบโอกาสให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินไปกับเกมบาคาร่าคลาสสิกในสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ใช้งานง่ายและปลอดภัย ในการเล่นบาคาร่า ขั้นตอนแรกผู้เล่นต้องวางเดิมพันที่เจ้ามือ ผู้เล่น หรือเสมอ จากนั้นเจ้ามือจะแจกไพ่สองใบให้กับผู้เล่นและเจ้ามือ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ได้แต้มรวมเก้าหรือใกล้เคียงเก้ามากที่สุด แม้ไพ่รวมของผู้เล่นเกินเก้า หลักที่สองจะถือเป็นคะแนน ไพ่ใบที่สามอาจถูกจั่วได้ตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ผู้เล่นที่มีคะแนนสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ และจะมีการจ่ายเงินตามนั้น ด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนของ Lucabet888 และอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินใจไปกับความตื่นเต้นของบาคาร่าจากความสะดวกสบายในบ้านของพวกคุณเอง

lucabet888 คู่มือในการเล่นเกมส์ไพ่บาคาร่า

lucabet888 คู่มือในการเล่นเกมส์ไพ่บาคาร่า

คู่มือ Lucabet888 ในการเล่นเกมไพ่บาคาร่าเป็นแหล่งข้อมูลที่จำเป็นจะต้องสำหรับทุกคนที่ต้องการฝึกฝนศิลปะของบาคาร่า คู่มือที่ครอบคลุมนี้ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่พื้นฐานของเกม ไปจนถึงกลยุทธ์และเทคนิคขั้นสูงเพื่อการชนะรางวัลใหญ่ ด้วยคำอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับกฎและรูปแบบการเล่น ตลอดจนกลเม็ดเทคนิคเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ คู่มือนี้จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงคุณค่าสำหรับทั้งผู้ริเริ่มและผู้เล่นที่มีประสบการณ์ ไม่ว่าคุณกำลังมองหาเพื่อพัฒนาความชำนาญของคุณหรือเพียงสนุกไปกับความตื่นเต้นของเกม คู่มือ Lucabet888 สำหรับการเล่นเกมไพ่บาคาร่าคือแนวทางที่ดีที่สุดของคุณสู่ความสำเร็จที่โต๊ะ

คู่มือการเล่นเกมไพ่บาคาร่าของ lucabet888 เป็นแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุมสำหรับทุกคนที่ต้องการทำความเข้าใจข้อมูลเชิงลึกของเกมคาสิโนยอดนิยมนี้ คู่มือนี้เขียนด้วยน้ำเสียงที่เป็นมืออาชีพ ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่กฎพื้นฐานของเกมไปจนถึงกลยุทธ์ระดับสูงสำหรับการชนะรางวัลใหญ่ ประกอบด้วยคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับการเดิมพันประเภทต่างๆที่สามารถทำได้ ตลอดจนเคล็ดลับในการจัดการแบ๊งค์ของคุณและทำการตัดสินใจที่ถูกต้องที่โต๊ะ นอกจากนี้ คู่มือยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโดยรอบบาคาร่า ทำให้เป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่าสำหรับทั้งผู้เล่นมือใหม่และผู้เล่นที่มีประสบการณ์ ด้วยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของ lucabet888 ทุกคนสามารถเชี่ยวชาญเกมที่น่าตื่นตาตื่นใจและคุ้มค่านี้ได้

บาคาร่าออนไลน์
รวมเกมไพ่ออนไลน์ไว้ในเว็บเดียว hydra888

การพนัน hydra888 เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นหนึ่งศูนย์รวมเกมไพ่ต่างๆไว้ภายในเว็บไซต์เดียว แพลตฟอร์มนี้นำเสนอเกมไพ่ออนไลน์ที่หลากหลาย รวมทั้งโป๊กเกอร์ แบล็คแจ็ค บาคาร่า และอื่นๆอีกมากมาย เว็บไซต์ได้รับการออกแบบด้วยส่วนต่อประสานที่ใช้งานง่ายเพื่อแน่ใจว่านำทางและเล่นเกมได้ง่าย ผู้เล่นสามารถเข้าถึงตัวเลือกการเล่นเกมที่หลากหลาย พร้อมขีดจำกัดการเดิมพันที่ไม่เหมือนกันเพื่อรองรับผู้เล่นทุกประเภท การพนัน ของเราเอาจริงเอาจังที่จะสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ยุติธรรมและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ แพลตฟอร์มนี้ยังมีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายเพื่อการฝากและถอนเงินสะดวกและไม่ยุ่งยาก ด้วยเกมที่หลากหลายและประสบการณ์การเล่นเกมที่ปลอดภัย การเดิมพัน hydra888 จึงเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆสำหรับคนที่ชื่นชอบเกมไพ่ออนไลน์

การพนัน hydra888 เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมไพ่ต่างๆแพลตฟอร์มนี้ไม่เหมือนใครเนื่องจากรวมเกมไพ่หลายเกม รวมทั้งโป๊กเกอร์ แบล็กแจ็ก และบาคาร่า ไว้ภายในเว็บไซต์เดียว ทำให้ผู้ใช้มีร้านค้าแบบครบวงจรสำหรับทุกความต้องการสำหรับเพื่อการเล่นเกม ผู้เล่นสามารถเพลินใจกับความสะดวกสบายในการเข้าถึงเกมไพ่ต่างๆจากแพลตฟอร์มเดียว ประหยัดเวลาและแรงเมื่อสลับไปมาระหว่างเกม นอกจากนั้น การพนันเรายังนำเสนอระบบที่ปลอดภัยและไว้ใจได้ซึ่งรับประกันการเล่นที่ยุติธรรมและการปกป้องข้อมูลลูกค้า แพลตฟอร์มนี้ยังเป็นมิตรกับผู้ใช้ด้วยอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายซึ่งทำให้ผู้ใช้นำทางและเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเล่นเกมได้ง่าย โดยรวมแล้ว การเดิมพัน hydra888 เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่มองหาประสบการณ์การเล่นเกมไพ่ออนไลน์ที่ราบรื่นและปลอดภัย

การเดิมพัน hydra888 เป็นปลายทางแบบครบวงจรสำหรับผู้เล่นเกมไพ่ออนไลน์ตัวยง เว็บไซต์นี้มีเกมไพ่มากมายที่สามารถเล่นได้ด้วยเงินจริง แพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นเพราะเหตุว่าใช้งานง่ายและมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่น การพนันมีเกมไพ่มากมาย ดังเช่น โป๊กเกอร์ บาคาร่า แบล็คแจ็ค และอื่นๆอีกมากมาย เว็บไซต์มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้เล่นที่จะเพลิดเพลินใจไปกับเกมไพ่ที่พวกเขาชื่นชอบโดยไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจใดๆก็ตามด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม การพนัน เราจึงกลายเป็นหนทางที่ได้รับความนิยมสำหรับนักเล่นการพนันออนไลน์ ด้วยการรวมเกมไพ่ออนไลน์หลายเกมเอาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว การเดิมพัน hydra888 ได้สร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่ราวกับใครและดื่มด่ำสำหรับผู้ใช้

ตัดสินแพ้ชนะด้วยไพ่เพียงใบเดียว เกมส์พนันสุดมันส์

ตัดสินแพ้ชนะด้วยไพ่เพียงใบเดียว เกมส์พนันสุดมันส์

hydra888การพนันออนไลน์กลายเป็นรูปแบบความบันเทิงที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยโดยมีเกมที่น่าเร้าใจมากมายให้คุณคลิกเพียงแต่ปุ่มเดียว หนึ่งในตัวเลือกที่น่าระทึกใจที่สุดเป็นโอกาสชนะหรือแพ้ด้วยไพ่เพียงแต่ใบเดียว เกมที่มีเดิมพันสูงนี้มักเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ที่เข้มข้นและการตัดสินใจที่รวดเร็วทันใจ ทำให้เป็นเกมโปรดของผู้เล่นที่มีประสบการณ์ ด้วยความสะดวกสบายสำหรับการเล่นจากที่บ้าน ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆที่ให้บริการเกมนี้ได้อย่างง่ายดายและลองเสี่ยงดวง อย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญคือต้องเล่นพนันอย่างมีความรับผิดชอบและหลบหลีกการใช้งบประมาณเกินตัว โดยรวมแล้ว ความตื่นเต้นของการชนะหรือแพ้ด้วยไพ่เพียงใบเดียวสามารถทำให้อะดรีนาลีนพุ่งพรวดสำหรับคนที่เสาะหาประสบการณ์การเดิมพันที่น่าตื่นเต้น

เกมการพนันบนเว็บได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยนำเสนอตัวเลือกมากมายสำหรับผู้เล่นที่ต้องการทดสอบโชค หนึ่งในด้านมุมที่น่าเร้าใจที่สุดของเกมกลุ่มนี้เป็นความเป็นไปได้ที่จะชนะหรือแพ้ด้วยไพ่เพียงใบเดียว ความรู้สึกเสี่ยงและรางวัลที่มากขึ้นนี้ทำให้อะดรีนาลีนพุ่งพรวดในประสบการณ์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นของการเดิมพัน ด้วยความสะดวกสบายของเกมออนไลน์ ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเกมไพ่ที่หลากหลายจากบ้านของตนได้อย่างสะดวกสบาย อย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญเป็นจำต้องเล่นการพนันอย่างมีความรับผิดชอบและอยู่ในขอบเขตเสมอ เพื่อแน่ใจว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและสนุกสนาน

คนที่ชื่นชอบการเดิมพันสามารถสัมผัสกับความตื่นเต้นของการชนะหรือแพ้ด้วยไพ่เพียงแต่ใบเดียวโดยสำรวจเกมที่น่าระทึกใจที่มีให้บนเว็บ คาสิโนออนไลน์นำเสนอเกมมากมายที่สนองตอบความต้องการของผู้เล่นทุกคน ตั้งแต่เกมบนโต๊ะแบบคลาสสิกไปจนกระทั่งวิดีโอสล็อตสมัยใหม่ เกมพวกนี้มอบโอกาสให้ผู้เล่นได้ทดลองโชคและความสามารถของพวกเขา พร้อมลุ้นรับรางวัลใหญ่ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เกมการพนันออนไลน์นำเสนอกราฟิกคุณภาพสูง ภาพเคลื่อนไหว และเอฟเฟกต์เสียงที่ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำ แต่ การเล่นพนันอย่างรับผิดชอบเป็นเรื่องจำเป็น และผู้เล่นต้องเข้าใกล้เกมกลุ่มนี้ด้วยความระมัดระวัง โดยคิดถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวโยง โดยรวมแล้วโลกของการเดิมพันออนไลน์นำเสนอเกมที่หลากหลายซึ่งสามารถให้ความบันเทิงและความตื่นเต้นแก่ผู้เล่นทั่วทั้งโลก

เกมไพ่เล่นหลายคน Multiplayer card game

เกมไพ่เล่นหลายคน Multiplayer card game

เว็บไซต์การเดิมพันhydra888เกมไพ่แบบผู้เล่นหลายท่านเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับนักเล่นการพนันที่ชื่นชอบการเล่นเกมไพ่ เว็บไซต์นี้อนุญาตให้ผู้เล่นแข่งขันกับผู้ใช้รายอื่นแบบเรียลไทม์โดยใช้เงินเสมอเหมือนหรือเงินจริง แพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมและปลอดภัยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมสำหรับการเล่นเกมไพ่ที่พวกเขาชื่นชอบ เว็บไซต์มีเกมหลากหลาย รวมทั้งโป๊กเกอร์ แบล็คแจ็ค และบาคาร่า อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ของไซต์และรายการอาหารที่ใช้งานง่ายทำให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยไม่คิดถึงระดับประสบการณ์ของพวกเขา นอกเหนือจากนี้ ไซต์ยังมีโปรโตคอลความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินของผู้ใช้ได้รับการปกป้อง โดยรวมแล้ว เว็บไซต์การเดิมพันเกมไพ่ที่มีผู้เล่นคนไม่ใช่น้อยเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเล่นการพนันที่ต้องการสัมผัสกับความตื่นเต้นของเกมไพ่ที่มีการแข่งขันกันอย่างหนักในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

เกมไพ่แบบผู้เล่นหลายๆคน เว็บไซต์การเดิมพันเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้เล่นมีโอกาสมีส่วนร่วมในเกมไพ่ที่น่าตื่นเต้นกับผู้เล่นผู้อื่นในขณะที่เดิมพันด้วยเงินจริง ด้วยเกมที่หลากหลาย เป็นต้นว่า โป๊กเกอร์ แบล็คแจ็ค และบาคาร่า เว็บไซต์นี้มอบประสบการณ์การเล่นเกมออนไลน์ที่ดื่มด่ำสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเพลินใจไปกับความตื่นเต้นของการพนันจากความสะดวกสบายในบ้านของพวกเขา ไซต์นี้มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่นำสมัยเพื่อแน่ใจว่าการทำธุรกรรมและข้อมูลผู้เล่นทั้งหมดจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย ยิ่งกว่านั้น แพลตฟอร์มยังมีโบนัสและโปรโมชันมากมายเพื่อให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมและได้รับรางวัล โดยรวมแล้ว เกมไพ่ที่มีผู้เล่นผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย เว็บไซต์การเดิมพันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดิมพันออนไลน์ที่สนุกสนานและคุ้มค่า

เว็บไซต์การพนันเกมไพ่ที่มีผู้เล่นหลายคนนำเสนอประสบการณ์ความบันเทิงที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ใช้ ด้วยเกมที่หลากหลายให้เลือก ผู้เล่นสามารถมีส่วนร่วมในเกมไพ่ที่ได้รับความนิยม อาทิเช่น โป๊กเกอร์ แบล็คแจ็ค และบาคาร่า ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสชนะเงินจริง เว็บไซต์ประเภทนี้เหมาะสำหรับบุคคลที่ชื่นชอบการเข้าสังคมในขณะที่เล่นเกม และคนที่กำลังมองหาโอกาสสำหรับเพื่อการหารายได้พิเศษ สิ่งสำคัญคือจำต้องรู้ดีว่าธุระกรรมการพนันทั้งหมดบนเว็บไซต์ดังกล่าวควรจะทำด้วยความรับผิดชอบและอยู่ในขอบเขตที่กฎหมายกำทีด โดยรวมแล้ว เว็บไซต์การพนันเกมไพ่ที่มีผู้เล่นคนไม่ใช่น้อยให้ความสนุกสนานและคุ้มค่าในการใช้เวลาว่าง

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
สล็อตออนไลน์แจ็กเพียงพอตแตกง่าย เล่นพอดี superslot ทุกเว็บไซต์

แจ็คพอตสล็อตออนไลน์เป็นเลิศในตัวเลือกเกมยอดนิยมสูงสุดบนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ เกมพวกนี้มอบโอกาสให้ผู้เล่นได้รับเงินปริมาณมากมายด้วยการกดเมาส์เพียงแต่ไม่จำนวนกี่ครั้ง อย่างไรก็แล้วแต่ ผู้เล่นบางบุคคลบางทีอาจไม่สบายใจเกี่ยวกับความปลอดภัยและก็ความน่าวางใจของเกมพวกนี้ โชคดีที่การพัฒนาปัจจุบันในเทคโนโลยีเกมออนไลน์ทำให้การเล่นและก็ชนะแจ็คพอตสล็อตออนไลน์ง่ายดายกว่าที่เคย เกมพวกนี้สามารถเข้าถึงได้จากเว็บ superslot ทุกเว็บไซต์ แล้วก็ได้รับการออกแบบมาให้ทำลายได้ง่าย เพื่อผู้เล่นสามารถรับเงินจากการชนะได้อย่างเร็วแล้วก็ง่ายมาก เพราะอะไรจะต้องคอย? เริ่มเล่นแจ็คพอตสล็อตออนไลน์วันนี้แล้วก็ดูด้วยตัวคุณเองว่าการทำให้มั่งมีนั้นง่ายแค่ไหน!

 

แจ็คพอตสล็อตออนไลน์เป็นตัวเลือกยอดฮิตในกลุ่มคนที่ติดอกติดใจคาสิโนออนไลน์เนื่องด้วยรางวัลสูงและก็แบบอย่างการเล่นที่น่าสนใจดวงใจ สล็อตพวกนี้ทำลายได้ง่ายและก็สามารถเล่นได้ในทุกเว็บของ superslot ทำให้ผู้เล่นหลายชนิดสามารถเข้าถึงได้ ความง่ายๆของการเล่นเกมรวมทั้งจังหวะสำหรับเพื่อการชนะรางวัลใหญ่ทำให้แจ็คพอตออนไลน์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหัวใจสำหรับผู้เล่นที่ปรารถนาเพิ่มเงินรางวัล อย่างไรก็ดี สิ่งจำเป็นสำหรับผู้เล่นเป็นการใช้ความรอบคอบและก็ใช้กรรมวิธีพนันอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อเลี่ยงการสูญเสียทางด้านการเงิน โดยรวมแล้ว แจ็คพอตสล็อตออนไลน์พรีเซ็นท์ประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าระทึกใจรวมทั้งอาจมีผลกำไร ซึ่งผู้เล่นทุกขีดความสามารถสามารถเพลิดเพลินใจได้

รวมเกมสล็อตออนไลน์ superslot777 ไม่จำกัดการพนัน

img
 

superslot ทุกเว็บไซต์ เกมสล็อตออนไลน์เป็นเยี่ยมในแบบการเดิมพันออนไลน์ยอดนิยมเยอะที่สุดในตอนนี้ ด้วยการเพิ่มขึ้นของคาสิโนออนไลน์ ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินเจริญใจกับเกมสล็อตที่มากมายจากความสบายสบายในบ้านของพวกเขาเอง จุดเด่นอย่างหนึ่งของการเล่นสล็อตออนไลน์เป็นช่องทางสำหรับในการเล่นโดยไม่กำหนดการพนัน ซึ่งแปลว่าผู้เล่นสามารถสนุกสนานกับเกมโดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลเกี่ยวกับการพนันอย่างน้อยหรือสูงสุด สิ่งนี้เย้ายวนใจผู้เล่นทั่วๆไปที่ปรารถนาสนุกสนานกับเกมโดยไม่เสียเงินเสียทอง ด้วยการรวมเกมสล็อตออนไลน์ที่ไม่จำกัดการพนัน คาสิโนออนไลน์ก็เลยสามารถสนองตอบผู้เล่นได้นานัปการขึ้นแล้วก็มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่บันเทิงใจรวมทั้งเป็นธรรม

 

เกมสล็อตออนไลน์เป็นที่นิยมมากเพิ่มขึ้นในตอนไม่กี่ปีที่ล่วงเลยไป ทำให้ผู้เล่นได้รับความสบายสบายและก็ความระทึกใจสำหรับในการเล่นเกมคาสิโนจากความสบายสบายในบ้านของพวกเขาเอง จุดเด่นอย่างหนึ่งของการเล่นสล็อตออนไลน์เป็นความรู้ความเข้าใจสำหรับการเล่นโดยไม่กำหนดการพนัน ทำให้ผู้เล่นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินได้อย่างแท้จริง สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้เล่นระดับค่อนข้างสูงที่อยากรับช่องทางสำหรับการพนันที่มากขึ้นแล้วก็ได้โอกาสชนะรางวัลใหญ่ ด้วยการรวมเกมสล็อตออนไลน์ที่ไม่มีการจำกัดการพนัน แพลตฟอร์มยกตัวอย่างเช่น superslot777 มอบประสบการณ์การเล่นเกมขั้นยอดเยี่ยมแก่ผู้เล่น มอบโอกาสที่ไม่สิ้นสุดสำหรับความระทึกใจและก็รางวัล ด้วยประการฉะนี้ ผู้เล่นก็เลยสามารถเพลินไปกับความระทึกใจของเกมโดยไม่มีข้อจำกัด ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับอีกทั้งผู้เล่นทั่วๆไปรวมทั้งผู้เล่นแท้จริงจัง

 

 

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ประเทศไทยในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รกฎหมายองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บัประเทศไทยงคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเปท่องเที่ยว็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดประเทศไทยกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกฎหมายกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึประเทศไทย้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วประเทศไทยมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 ประเทศไทยวัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกันประเทศไทย 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย