เกมส์ออนไลน์
hotgraph88 เกม ดั ม มี่ เว็บตรง สมาชิกใหม่ฟรีโบนัสแรกเข้า

เกม ดั ม มี่ Hotgraph88 เกมเดิมพันออนไลน์มาไกล และแพลตฟอร์มนี้อยู่ในระดับแนวหน้าของการปฏิวัติ ด้วยคอลเลกชั่นเกมที่มีให้เลือกมากมาย ทำให้สมาชิกมีตัวเลือกที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนานมากมาย แพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ทุกประเภท ตั้งแต่ผู้เล่นทั่วๆไปจนถึงผู้ที่ชื่นชอบฮาร์ดคอร์ อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และการออกแบบที่ใช้งานง่ายทำให้ผู้ใช้นำทางและค้นหาเกมที่ต้องการเล่นได้ง่าย ฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมและการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอทำให้แพลตฟอร์มมีความสดใหม่และน่าดึงดูด ทำให้มั่นใจได้ว่าสมาชิกจะมีสิ่งใหม่และน่าตื่นเต้นรออยู่เสมอ โดยรวมแล้ว แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ชั้นนำนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับใครก็ตามที่รักการเล่นเกมและกำลังมองหาประสบการณ์คุณภาพสูง ในฐานะสมาชิกใหม่ พวกเรามีความยินดีที่จะเสนอโบนัสต้อนรับฟรีแก่คุณเมื่อสมัครใช้งาน นี่เป็นวิธีการแสดงความขอบคุณที่เลือกเข้าร่วมชุมชนของเรา โบนัสต้อนรับออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเริ่มและสำรวจสิทธิประโยชน์ต่างๆที่มาพร้อมกับการเป็นสมาชิก พวกเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการที่เป็นเลิศ และพวกเรามั่นใจว่าโบนัสต้อนรับของเราเป็นวิธีที่ดีในการแนะนำคุณให้รู้จักกับทุกสิ่งที่พวกเรามีให้ มั่นใจได้ว่าทีมงานของพวกเราพร้อมตอบคำถามที่คุณอาจมีเสมอ และพวกเราหวังว่าจะได้ให้บริการคุณและช่วยทำให้คุณบรรลุเป้าหมาย ให้คุณลองเล่นเกมต่างๆที่มีอยู่บนแพลตฟอร์ม หนึ่งในเกมยอดนิยมบนเว็บไซต์ของเราคือเกม Dummy ซึ่งให้ความบันเทิงหลายชั่วโมงสำหรับผู้เล่นทุกระดับความสามารถ ด้วยเว็บอินเตอร์เฟสโดยตรง เกมจึงเข้าถึงได้ง่ายและช่วยทำให้เล่นเกมได้อย่างราบรื่น แพลตฟอร์มดังกล่าวยังเป็นที่รู้จักในด้านการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมและวิธีการชำระเงินที่ปลอดภัย ทำให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การเล่นเกมที่ปลอดภัยและสนุกสนาน เข้าร่วมเว็บไซต์ของเราวันนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเกมที่มีชีวิตชีวา

hotgraph88 เดิมพันเกมออนไลน์น่าเล่นสุดปัง เล่นไม่เป็นก็สอนให้

hotgraph88 เดิมพันเกมออนไลน์น่าเล่นสุดปัง เล่นไม่เป็นก็สอนให้

Hotgraph88 แพลตฟอร์มนี้เป็นชื่อที่โด่งดังในโลกของการพนันออนไลน์ มีเกมหลากหลายที่ไม่เพียงแต่แต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังให้โอกาสในการชนะรางวัลใหญ่อีกด้วย แต่ละเกมได้รับการออกแบบให้มีส่วนร่วมและยุติธรรม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับค่อนข้างสูง ผู้เล่นสามารถวางใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินของพวกเขาจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย แพลตฟอร์มนี้ภูมิใจในชื่อเสียงและความน่าวางใจด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายซึ่งทำให้ง่ายสำหรับผู้เล่นมือใหม่ในการเริ่มต้น โดยรวมแล้วเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มการเดิมพันที่มีชื่อเสียงซึ่งมอบโอกาสที่น่าเร้าใจในการชนะรางวัลใหญ่ เว็บไซต์ของพวกเรานำเสนอเกมที่หลากหลายเพื่อตอบตอบสนองผู้เล่นทุกระดับความถนัดและความสนใจ เราเข้าใจถึงความสำคัญของการนำเสนอตัวเลือกที่หลากหลายเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าของพวกเราทุกคนจะเจอเกมที่พวกเขากำลังมองหา เกมของเราออกแบบมาเพื่อท้าทายและมีส่วนร่วมกับผู้เล่น ในขณะเดียวกันก็มอบความบันเทิงหลายชั่วโมง ตั้งแต่เกมธรรมดาไปจนถึงเกมที่สลับซับซ้อน เรามีบางอย่างสำหรับทุกคน อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ของพวกเราทำให้ง่ายต่อการนำทางและเข้าถึงเกมโดยไม่ยุ่งยาก ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นที่ชำนิชำนาญหรือเพิ่งจะเริ่ม เว็บไซต์ของพวกเรามีบางสิ่งที่ดึงดูดใจคุณ สิ่งที่ทำให้เว็บไซต์ของเรากระโดดเด่นคือความมุ่งมั่นในการช่วยให้ผู้เล่นศึกษาวิธีเล่นเกมที่พวกเขานำเสนอ ถ้าหากคุณยังใหม่กับโลกของเกมออนไลน์ เว็บไซต์ของพวกเรามีคำแนะนำและแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุมเพื่อช่วยให้คุณเริ่มได้ พวกเขาเชื่อว่าทุกคนสามารถศึกษาที่จะเล่นและสนุกกับเกมที่พวกเขานำเสนอได้ และพวกเขามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ปลอดภัยและสนุกสนานให้กับทุกคน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพหรือมือใหม่เว็บไซต์ของพวกเราเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดิมพันเกมโปรดของคุณ

hotgraph88เดิมพันออนไลน์เล่นกับคนจริง ไม่มีมีบอท

hotgraph88เดิมพันออนไลน์เล่นกับคนจริง ไม่มีมีบอท

Hotgraph88แพลตฟอร์มการพนันออนไลน์นี้ได้รับการยอมรับอย่าขี้เหนียวว้างขวางในด้านความสามารถในการมอบประสบการณ์ที่แท้จริงที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้ใช้ ซึ่งแตกไม่เหมือนกับเว็บไซต์การพนันอื่นๆที่พึ่งพาบอทเพียงแค่อย่างเดียว แพลตฟอร์มนี้อนุญาตให้ผู้ใช้เดิมพันกับคนจริง คุณลักษณะนี้ได้เปลี่ยนวิธีที่ผู้คนเข้าถึงการพนันออนไลน์และสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าดึงดูดและสมจริงยิ่งขึ้นสำหรับผู้เล่น ความมุ่งมั่นของแพลตฟอร์มในการนำเสนอประสบการณ์ที่แท้จริงมีส่วนอย่างมากต่อความสำเร็จและความนิยมในเหล่าผู้ใช้ ด้วยเกมและตัวเลือกการเดิมพันที่หลากหลาย แพลตฟอร์มนี้นำเสนอวิธีที่ปลอดภัยและสะดวกสบายในการเพลิดเพลินไปกับความตื่นเต้นของการพนันจากความสะดวกสบายในบ้านของคุณเอง แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดิมพันที่ยุติธรรมและโปร่งใสแก่ผู้ใช้ซึ่งปราศจากการคดโกงหรือการปฏิบัติที่ไม่ชอบธรรมในรูปแบบอะไรก็ตามด้วยเว็บไซต์ของเราผู้ใช้สามารถมั่นใจในสภาพแวดล้อมการเดิมพันที่ปลอดภัยซึ่งพวกเขาสามารถวางเดิมพันและรับเงินจริงได้ แพลตฟอร์มนี้ใช้งานง่าย มีตัวเลือกการเดิมพันมากมายให้เลือก รวมถึงการเดิมพันกีฬา เกมคาสิโน และสล็อตแมชชีน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเล่นการพนันมือเก๋าหรือมือใหม่เว็บไซต์ของเรามีทุกอย่างสำหรับทุกคน เหตุใดจึงไม่เข้าร่วมกับผู้ใช้ที่พึงพอใจหลายล้านคนและเริ่มเดิมพันกับคนจริงวันนี้

เกมส์ออนไลน์
betflik68 10 อันดับเกม เถื่อนยอดนิยม สายฟรีไม่ควรพลาด

เกม เถื่อน Betflik68 พวกเรามีความยินดีที่จะนำเสนอเกมโจรสลัดยอดนิยม 10 อันดับแรกที่มีให้เล่นออนไลน์ฟรี เกมกลุ่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีที่สนุกสนานและน่าเร้าใจเพื่อใช้เวลาว่าง เกมที่เราคัดสรรมานั้นมีตัวเลือกมากมายที่จะตอบตอบสนองรสนิยมและความถูกใจที่แตกแตกต่าง ตั้งแต่เกมกลยุทธ์ไปจนถึงการผจญภัยที่เต็มไปด้วยแอ็คชั่น พวกเรามีบางอย่างสำหรับทุกคน ทีมงานของพวกเราได้คัดสรรรายชื่อนี้อย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าเกมทั้งหมดมีคุณภาพสูงและมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ เราหวังว่าผู้อ่านของเราจะสนุกกับการเล่นเกมพวกนี้และสนุกไปกับการสำรวจท้องสมุทรและเกมเหล่านี้ไม่ควรพลาด ตั้งแต่เกมคลาสสิกอย่าง Pirates of the Caribbean ไปจนถึงเกมใหม่อย่าง Sea of Thieves มีบางอย่างสำหรับทุกคนในรายการนี้ แต่ละเกมได้รับการเลือกจากกราฟิกคุณภาพสูง รูปแบบการเล่นที่น่าดึงดูด และความนิยมโดยรวมในกลุ่มเกมเมอร์ ไม่ว่าคุณจะเป็นโจรสลัดที่ชำนาญหรือเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในโลกของเกม ด้วยเกมที่มีอยู่มากมายในขณะนี้ การเลือกเกมที่สมบูรณ์แบบสำหรับความบันเทิงของคุณจึงไม่ใช่เรื่องยาก อย่างไรก็ตาม เกมเหล่านี้มาพร้อมกับการรับประกันว่าจะให้ความบันเทิงหลายชั่วโมง ทำให้คุณติดงอมแงมได้นานกว่าที่คุณคาดไว้ ไม่ว่าคุณจะชอบเกมเสี่ยงอันตราย เกมจำลองสถานการณ์ หรือปริศนา มีบางอย่างสำหรับทุกคน เหตุใดจึงรออีกต่อไป ออกเดินทางและเริ่มเล่นเลยวันนี้ และดำตรงสู่โลกแห่งความตื่นเต้นกระตุ้นใจ เกมพวกนี้ออกแบบมาเพื่อท้าทายความคิดของคุณและมอบความสนุกไม่รู้จบ ด้วยเหตุนั้นอย่าพลาดโอกาสในการดื่มด่ำไปกับมัน เริ่มเกมกันเลย!

betflik68 เกมออนไลน์ได้เงิน เล่นได้แล้ววันนี้ ได้เงินใช้ฟรีกันไปเลย

betflik68 เกมออนไลน์ได้เงิน เล่นได้แล้ววันนี้ ได้เงินใช้ฟรีกันไปเลย

Betflik68 แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ดังกล่าวมีชื่อเสียงในด้านการมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงแก่ผู้ใช้ ซึ่งทำให้พวกเขาเล่นเกมด้วยเงินจริงได้ แพลตฟอร์มดังกล่าวมีเกมให้เลือกมากมาย ตอบตอบสนองความถูกใจ ระดับความถนัด และความสนใจที่แตกแตกต่างกัน แพลตฟอร์มนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเกมทั้งหมดนั้นยุติธรรม โปร่งใส และปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้มีสนามแข่งขันที่เท่าเทียมและอุ่นใจ ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย การนำทางที่ใช้งานง่าย และการเล่นเกมที่ราบรื่น แพลตฟอร์มนี้จึงเข้าถึงได้ง่ายและสนุกสนานสำหรับบุคคลทุกวัยและทุกภูมิหลัง ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงและวางใจได้ในอุตสาหกรรมเกมออนไลน์ ผู้ใช้สามารถวางใจได้ว่าประสบการณ์การเล่นเกมของพวกเขานั้นมีคุณภาพสูงสุดผู้ใช้สามารถดื่มด่ำกับเกมโปรดของพวกเขาและรับเงินไปพร้อมกับความสนุกสนาน นอกเหนือจากนี้ ผู้ใช้ใหม่จะได้รับเงินฟรีเมื่อลงทะเบียน ซึ่งพวกเขาสามารถใช้เพื่อเริ่มเล่นเกมโดยไม่ต้องฝากเงินครั้งแรก แพลตฟอร์มนี้ใช้งานง่ายและปลอดภัย ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลและเงินของผู้ใช้จะปลอดภัยตลอดเวลา ในฐานะผู้ให้บริการเกมออนไลน์ พวกเรามีความภาคภูมิใจในความมุ่งมั่นของเราในการมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สนุกสนานและเป็นมืออาชีพแก่ผู้ใช้ของพวกเราทุกคน เราเข้าใจดีว่าผู้ใช้ของเราแสวงหาประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำและสนุกสนานซึ่งเสริมด้วยบริการระดับมืออาชีพ นั่นคือเหตุผลที่พวกเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการแพลตฟอร์มเกมที่ไม่เพียงให้ความบันเทิง แต่ยังเชื่อถือได้ ปลอดภัย และเป็นมิตรกับผู้ใช้อีกด้วย ความทุ่มเทของพวกเราในการตอบตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้ใช้ทำให้เราเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมออนไลน์ พวกเราลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับแต่งบริการของเราเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สนุกสนานและเป็นมืออาชีพ

betflik68เว็บเกมที่จะทำให้คุณเล่นได้ทั้งวัน ไม่มีเบื่อ

betflik68เว็บเกมที่จะทำให้คุณเล่นได้ทั้งวัน ไม่มีเบื่อ

Betflik68เกมบนเว็บที่เป็นนวัตกรรมและมีส่วนร่วมได้รับการออกแบบอย่างแม่นยำเพื่อให้ผู้เล่นเพลิดเพลินใจได้นานหลายชั่วโมง กราฟิกที่น่าประทับใจและรูปแบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เกมนี้โดดเด่นเหนือเกมอื่นๆในตลาด ด่านที่ท้าทายและคุณสมบัติที่น่าเร้าใจของเกมทำให้แต่ละด่านน่าสนใจยิ่งขึ้น ทำให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมและมีแรงบันดาลใจตลอด อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ช่วยทำให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นและไม่มีรอยต่อสำหรับผู้เล่นทุกวัย การออกแบบของเกมได้รับการสร้างสรรค์โดยนักพัฒนาที่เก่งที่สุดในอุตสาหกรรม รับประกันประสบการณ์การเล่นเกมคุณภาพสูง โดยรวมแล้วเกมนี้เป็นเกมที่ต้องลองสำหรับใครก็ตามที่มองหาประสบการณ์การเล่นเกมออนไลน์ที่สนุกสนานและน่าเร้าใจ เกมนี้มีความท้าทายและกิจกรรมที่น่าเร้าใจมากมายซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมและท้าทายตลอดประสบการณ์การเล่นเกม ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเล่นเกมที่ชำนิชำนาญหรือผู้เล่นทั่วๆไป Betflik68 มีบางสิ่งสำหรับทุกคน ด้วยกราฟิกที่น่าทึ่ง รูปแบบการเล่นที่ใช้งานง่าย และคุณสมบัติที่น่าตื่นเต้นมากมาย เกมบนเว็บนี้จะมอบความบันเทิงและความเพลิดเพลินเจริญใจได้หลายชั่วโมงอย่างแน่นอนหากคุณกำลังมองหาเกมที่จะมีผลให้คุณมีส่วนร่วมและเพลินใจได้นานหลายชั่วโมง เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม แพลตฟอร์มเกมออนไลน์นี้นำเสนอเกมที่หลากหลายซึ่งตอบตอบสนองความสนใจที่แตกแตกต่างกัน มอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและสนุกสนานแก่ผู้เล่น อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ของ Betflik68 และรูปแบบการเล่นที่ลื่นไหลทำให้นำทางและเล่นได้ง่าย คุณจึงมีสมาธิกับความตื่นเต้นของเกมได้ ด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนลูกค้าที่ไว้ใจได้ รับประกันประสบการณ์การเล่นเกมที่ปลอดภัยและสนุกสนาน มีส่วนร่วมในการเล่นเกมที่น่าระทึกใจ เสี่ยงโชคที่คาสิโน หรือฝึกหัดความถนัดของคุณด้วยเกมต่างๆที่มีให้บริการบน Betflik68

เกมส์ออนไลน์
betflik68 เกม ไพ่ป๊อก เด้ง ออนไลน์

Betflik68 เกม ไพ่ป๊อก เด้ง เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงซึ่งที่แพลตฟอร์มโป๊กเกอร์ออนไลน์ของพวกเรา เราทุ่มเทเพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบโป๊กเกอร์ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม พวกเราเข้าใจถึงความสำคัญของการเล่นเกมที่ราบรื่น ทัวร์นาเมนต์ที่น่าระทึกใจ และการเล่นเกมที่ยุติธรรม และเรามุ่งมั่นที่จะก่อให้เกินความคาดหวังในทุกด้านเหล่านี้ แพลตฟอร์มของพวกเรามีส่วนต่อประสานที่ใช้งานง่าย มาตรการรักษาความปลอดภัยระดับแนวหน้า เกมและทัวร์นาเมนต์ที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผู้เล่นทุกคน พวกเราอัปเดตซอฟต์แวร์ของพวกเราอย่างตลอดเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นของเราสามารถเข้าถึงคุณสมบัติและเทคโนโลยีล่าสุดได้ ทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้เล่นในทุกคำถามที่อาจมี และเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าที่เร็วทันใจและเชื่อใจได้ เป้าหมายของพวกเราคือการสร้างชุมชนโป๊กเกอร์ออนไลน์ที่มีชีวิตชีวาที่สนุกสนาน แข่งขันได้ และคุ้มค่าสำหรับผู้เล่นทุกคน แพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับชื่อเสียงในด้านความสามารถทางเทคโนโลยีที่กระโดดเด่นและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายซึ่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่น เทคโนโลยีระดับสูงที่นำมาใช้โดยแพลตฟอร์มช่วยทำให้การนำทางเป็นไปอย่างราบรื่นทั่วทั้งไซต์ ทำให้เข้าถึงคุณลักษณะและฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดที่มีให้ได้อย่างง่ายดาย อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ของแพลตฟอร์มได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบตอบสนองความต้องการของผู้เล่น โดยไม่นึกถึงระดับความเชี่ยวชาญของพวกเขา นำเสนอวิธีที่ใช้งานง่ายและตรงไปตรงมาในการเรียกดู เล่น และโต้ตอบกับไซต์ โดยรวมแล้ว การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ เกมโป๊กเกอร์ Betflik68 ป๊อกเด้งออนไลน์เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม ให้บริการเกมโป๊กเกอร์ที่หลากหลายซึ่งตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจที่หลากหลายของผู้เล่น จาก Texas Hold’em ถึง Omaha Hi-Lo เกมโป๊กเกอร์ Betflik68 ป๊อกเด้งออนไลน์มีบางสิ่งสำหรับทุกคน นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังรับประกันว่าเกมทั้งหมดมีความยุติธรรมและโปร่งใส ทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ปลอดภัยและเชื่อมั่นได้ ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายที่น่าประทับใจและฐานผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น เกมโป๊กเกอร์ Betflik68 ป๊อกเด้งออนไลน์จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆสำหรับผู้ที่ชื่นชอบโป๊กเกอร์อย่างไม่ต้องสงสัย

betflik68 เกมใหม่ล่าสุด เดิมพันขั้นต่ำ 5 บาท

betflik68 เกมใหม่ล่าสุด เดิมพันขั้นต่ำ 5 บาท

Betflik68 แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ระดับแนวหน้าพึ่งประกาศเปิดตัวเกมล่าสุดซึ่งได้รับการออกแบบอย่างประณีตบรรจงเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำและผาดโผนแก่ผู้เล่น ความมุ่งมั่นของแพลตฟอร์มในการมอบความบันเทิงชั้นเลิศนั้นเห็นได้จากคุณภาพและความหลากหลายของเกมใหม่ ซึ่งรวมเอานวัตกรรมทางเทคโนโลยีล่าสุดและกราฟิกที่ล้ำสมัยเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือชั้น ด้วยเกมที่มีให้เลือกมากมาย ผู้เล่นสามารถค้นหาแนวเกมที่พวกเขาชื่นชอบและดื่มด่ำกับการเล่นเกมที่น่าระทึกใจและท้าทาย เกมล่าสุดของแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทอย่างไม่เปลี่ยนแปลงในการมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้ เดิมพันขั้นต่ำสำหรับเกมนี้ตั้งไว้ที่ 5 บาท เป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงต่ำและราคาไม่แพงสำหรับผู้เล่น แม้ว่าจะมีมูลค่าต่ำ แต่การเดิมพันขั้นต่ำนี้ยังคงเปิดโอกาสให้ได้รับรางวัลมากมาย เกมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองผู้เล่นในวงกว้าง รวมทั้งผู้ที่อาจไม่มีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับการพนันหรือต้องการลดความเสี่ยงทางการเงิน การเดิมพันขั้นต่ำที่ต่ำยังบ่งบอกว่าเกมนี้ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมสำหรับผู้เล่นทุกคน ด้วยเหตุดังกล่าวเกมนี้สัญญาว่าจะมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าดึงดูดสำหรับทั้งผู้เล่นใหม่และผู้เล่นที่ชำนาญทำให้เข้าถึงผู้เล่นทุกประเภทไม่ว่าจะมีงบประมาณเท่าใดก็ตาม แพลตฟอร์มดังกล่าวได้ร่วมมือกับผู้พัฒนาเกมชั้นนำเพื่อให้บริการเกมที่หลากหลาย รวมถึงเกมสล็อต เกมบนโต๊ะ และเกมคาสิโนสด แพลตฟอร์มนี้ยังมีเกตเวย์การชำระเงินที่ราบรื่นและปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เล่นสามารถฝากและถอนเงินได้อย่างง่ายดาย ด้วยเกมล่าสุดของ Betflik68 ผู้เล่นสามารถเพลินใจกับประสบการณ์การเล่นเกมระดับโลกจากความสะดวกสบายในบ้านของตน

betflik68ป๊อกเด้งออนไลน์มือถือ

betflik68ป๊อกเด้งออนไลน์มือถือ

Betflik68 Mobile Online Poker แพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นข้อเสนอที่เป็นนวัตกรรมและล้ำสมัยอย่างแท้จริง ซึ่งมอบประสบการณ์โป๊กเกอร์ออนไลน์ที่ราบรื่นและน่าดึงดูดสำหรับผู้เล่น ด้วยส่วนต่อประสานผู้ใช้ที่ทันสมัยและคุณสมบัติระดับสูง แพลตฟอร์มนี้กำลังปฏิวัติวิธีการที่ผู้เล่นสนุกกับโป๊กเกอร์ออนไลน์ อินเทอร์เฟซที่ราบรื่นและใช้งานง่ายช่วยให้ผู้เล่นไปยังส่วนต่างๆของแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดายและเพลิดเพลินเจริญใจกับเกมที่หลากหลาย ตั้งแต่ Texas Hold’em แบบคลาสสิกไปจนถึงรูปแบบพิเศษอื่นๆเทคโนโลยีระดับสูงของแพลตฟอร์มทำให้มั่นใจได้ว่าการเล่นเกมนั้นยุติธรรมและปลอดภัยเสมอ ทำให้ผู้เล่นรู้สึกสบายใจในขณะที่เล่น โดยรวมแล้ว แพลตฟอร์มนี้เป็นตัวเปลี่ยนเกมในโลกของโป๊กเกอร์ออนไลน์ นำเสนอประสบการณ์ที่เหนือชั้นสำหรับผู้เล่นทุกระดับ ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและกราฟิกชั้นเลิศ Betflik68 มอบประสบการณ์การพนันที่ดื่มด่ำซึ่งทำให้ผู้เล่นกลับมาเล่นอีก แพลตฟอร์มนี้นำเสนอเกมโป๊กเกอร์ที่หลากหลาย รวมถึง Texas Hold’em, Omaha และ Seven Card Stud เป็นต้น โป๊กเกอร์ออนไลน์บนมือถือ Betflik68 เข้ากันได้กับอุปกรณ์มือถือหลักทั้งหมด และมาตรการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์มช่วยทำให้ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินเจริญใจกับเกมของพวกเขาได้อย่างสบายใจ ด้วยคุณสมบัติที่กระโดดเด่นและการสนับสนุนลูกค้า ถ้าหากคุณกำลังมองหาประสบการณ์โป๊กเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้และมีชีวิตชีวา ไม่ต้องมองหาที่ไหนอีกแล้ว แพลตฟอร์มนี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่กระหายความตื่นเต้นของเกมโป๊กเกอร์ที่มีเดิมพันสูงโดยไม่ต้องวุ่นวายกับการเดินทางไปยังคาสิโนจริง ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เทคโนโลยีล้ำสมัย และเกมที่หลากหลาย ทำให้มีทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการเพื่อตอบตอบสนองความต้องการในการเล่นเกมของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพหรือมือใหม่ คุณจะพบกับเกมที่เหมาะกับระดับความสามารถและความถูกใจของคุณ นอกเหนือจากนั้น แพลตฟอร์มยังมีมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับแนวหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลเฉพาะบุคคลและข้อมูลทางการเงินของคุณจะได้รับการปกป้องตลอดเวลา กล่าวโดยสรุปคือตัวอย่างของแพลตฟอร์มโป๊กเกอร์ออนไลน์ที่น่าเชื่อถือและน่าเร้าใจ

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
สล็อตออนไลน์แจ็กเพียงพอตแตกง่าย เล่นพอดี superslot ทุกเว็บไซต์

แจ็คพอตสล็อตออนไลน์เป็นเลิศในตัวเลือกเกมยอดนิยมสูงสุดบนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ เกมพวกนี้มอบโอกาสให้ผู้เล่นได้รับเงินปริมาณมากมายด้วยการกดเมาส์เพียงแต่ไม่จำนวนกี่ครั้ง อย่างไรก็แล้วแต่ ผู้เล่นบางบุคคลบางทีอาจไม่สบายใจเกี่ยวกับความปลอดภัยและก็ความน่าวางใจของเกมพวกนี้ โชคดีที่การพัฒนาปัจจุบันในเทคโนโลยีเกมออนไลน์ทำให้การเล่นและก็ชนะแจ็คพอตสล็อตออนไลน์ง่ายดายกว่าที่เคย เกมพวกนี้สามารถเข้าถึงได้จากเว็บ superslot ทุกเว็บไซต์ แล้วก็ได้รับการออกแบบมาให้ทำลายได้ง่าย เพื่อผู้เล่นสามารถรับเงินจากการชนะได้อย่างเร็วแล้วก็ง่ายมาก เพราะอะไรจะต้องคอย? เริ่มเล่นแจ็คพอตสล็อตออนไลน์วันนี้แล้วก็ดูด้วยตัวคุณเองว่าการทำให้มั่งมีนั้นง่ายแค่ไหน!

 

แจ็คพอตสล็อตออนไลน์เป็นตัวเลือกยอดฮิตในกลุ่มคนที่ติดอกติดใจคาสิโนออนไลน์เนื่องด้วยรางวัลสูงและก็แบบอย่างการเล่นที่น่าสนใจดวงใจ สล็อตพวกนี้ทำลายได้ง่ายและก็สามารถเล่นได้ในทุกเว็บของ superslot ทำให้ผู้เล่นหลายชนิดสามารถเข้าถึงได้ ความง่ายๆของการเล่นเกมรวมทั้งจังหวะสำหรับเพื่อการชนะรางวัลใหญ่ทำให้แจ็คพอตออนไลน์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหัวใจสำหรับผู้เล่นที่ปรารถนาเพิ่มเงินรางวัล อย่างไรก็ดี สิ่งจำเป็นสำหรับผู้เล่นเป็นการใช้ความรอบคอบและก็ใช้กรรมวิธีพนันอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อเลี่ยงการสูญเสียทางด้านการเงิน โดยรวมแล้ว แจ็คพอตสล็อตออนไลน์พรีเซ็นท์ประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าระทึกใจรวมทั้งอาจมีผลกำไร ซึ่งผู้เล่นทุกขีดความสามารถสามารถเพลิดเพลินใจได้

รวมเกมสล็อตออนไลน์ superslot777 ไม่จำกัดการพนัน

img
 

superslot ทุกเว็บไซต์ เกมสล็อตออนไลน์เป็นเยี่ยมในแบบการเดิมพันออนไลน์ยอดนิยมเยอะที่สุดในตอนนี้ ด้วยการเพิ่มขึ้นของคาสิโนออนไลน์ ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินเจริญใจกับเกมสล็อตที่มากมายจากความสบายสบายในบ้านของพวกเขาเอง จุดเด่นอย่างหนึ่งของการเล่นสล็อตออนไลน์เป็นช่องทางสำหรับในการเล่นโดยไม่กำหนดการพนัน ซึ่งแปลว่าผู้เล่นสามารถสนุกสนานกับเกมโดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลเกี่ยวกับการพนันอย่างน้อยหรือสูงสุด สิ่งนี้เย้ายวนใจผู้เล่นทั่วๆไปที่ปรารถนาสนุกสนานกับเกมโดยไม่เสียเงินเสียทอง ด้วยการรวมเกมสล็อตออนไลน์ที่ไม่จำกัดการพนัน คาสิโนออนไลน์ก็เลยสามารถสนองตอบผู้เล่นได้นานัปการขึ้นแล้วก็มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่บันเทิงใจรวมทั้งเป็นธรรม

 

เกมสล็อตออนไลน์เป็นที่นิยมมากเพิ่มขึ้นในตอนไม่กี่ปีที่ล่วงเลยไป ทำให้ผู้เล่นได้รับความสบายสบายและก็ความระทึกใจสำหรับในการเล่นเกมคาสิโนจากความสบายสบายในบ้านของพวกเขาเอง จุดเด่นอย่างหนึ่งของการเล่นสล็อตออนไลน์เป็นความรู้ความเข้าใจสำหรับการเล่นโดยไม่กำหนดการพนัน ทำให้ผู้เล่นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินได้อย่างแท้จริง สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้เล่นระดับค่อนข้างสูงที่อยากรับช่องทางสำหรับการพนันที่มากขึ้นแล้วก็ได้โอกาสชนะรางวัลใหญ่ ด้วยการรวมเกมสล็อตออนไลน์ที่ไม่มีการจำกัดการพนัน แพลตฟอร์มยกตัวอย่างเช่น superslot777 มอบประสบการณ์การเล่นเกมขั้นยอดเยี่ยมแก่ผู้เล่น มอบโอกาสที่ไม่สิ้นสุดสำหรับความระทึกใจและก็รางวัล ด้วยประการฉะนี้ ผู้เล่นก็เลยสามารถเพลินไปกับความระทึกใจของเกมโดยไม่มีข้อจำกัด ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับอีกทั้งผู้เล่นทั่วๆไปรวมทั้งผู้เล่นแท้จริงจัง

 

 

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ประเทศไทยในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รกฎหมายองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บัประเทศไทยงคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเปท่องเที่ยว็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดประเทศไทยกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกฎหมายกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึประเทศไทย้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วประเทศไทยมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกัน 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 ประเทศไทยวัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย

คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ สล็อตออนไลน์ หวยออนไลน์ เกมส์ออนไลน์ แทงบอลออนไลน์
ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุก

ชายสิงคโปร์อ้างตำรวจไทยข่มขู่ให้จ่าย 2.7 หมื่น ฐานพกบุหรี่ไฟฟ้าแลกติดคุกที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, “สกาย” ชายสิงคโปร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์กับ ชาลีน อัน นักแสดงสาวไต้หวันเมื่อ 9 ชั่วโมงที่แล้ว“สกาย” ชายสิงคโปร์ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่เป็นคนเจรจากับตำรวจที่ด่านตรวจ เผย ถูกตำรวจไทย “ข่มขู่” และให้จ่ายเงิน เพื่อไม่ต้องไป “โรงพัก-เข้าคุก” เป็นเงิน 27,000 บาท หลังตำรวจพบว่าเขาพกบุหรี่ไฟฟ้า ยืนยัน ดาราสาวไต้หวันไม่ได้พกไปในคืนวันนั้น

วันนี้ (1 ก.พ. 2566) นาย “สกาย” เพื่อนของ อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันที่เปิดเผยว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถเงินเธอกับเพื่อน ๆ รวม 27,000 บาท ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจากมุมมองของเขา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เป็นผู้ “ควักเงินส่วนตัว” จองตั๋วเครื่องบินให้นายสกาย เดินทางมาไทยจากสิงคโปร์ เพื่อแถลงข่าวชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

สกาย เล่าว่า ไปเที่ยวไนต์คลับกับชาลีน อัน ก่อนจะเรียกรถแกร็บเพื่อเดินทางไปต่อย่านห้วยขวาง แต่กลับเจอด่านตำรวจระหว่างทาง และตำรวจเรียกให้เขาและเพื่อน ๆ ลงจากรถ

“ตำรวจบอกว่าอยากตรวจค้น เอาไฟฉายส่อง… เขาจับกระเป๋าตามตัวผม ผมก็เอาสิ่งของให้ดูทั้งหมด เขาบอกให้ผมถอดรองเท้า แล้วขอดูหนังสือเดินทาง ซึ่งผมไม่ได้เอาไป” สกาย แถลงข่าวเป็นภาษาไทย ที่เขาระบุว่า พูดได้ในระดับที่สื่อสารได้ เพราะเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง

นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ยอมรับว่า เขาพกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วย เช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคน แต่ ชาลีน อัน ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าไปด้วยในคืนนั้น แม้ว่าเธอจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้าง สรุปแล้ว กลุ่มเพื่อนของเขา รวมชาลีน อัน มีอยู่ด้วยกันประเทศไทย 4 คน พกพาบุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่ได้พกพาหนังสือเดินทาง
“ฉันไม่ใช่วีรสตรี ไม่ได้อยากสู้กับตำรวจไทย”เที่ยวแบบ VVIP : ปมจ้างตำรวจไทยนำขบวน นทท. จีน สะท้อนภาพปราบโกงล้มเหลวหรือไม่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าตำรวจไทยเจอต้องทำอย่างไรสกาย เล่าต่อว่า ตำรวจได้นำบุหรี่ไฟฟ้าไป แต่เมื่อชาลีน อัน พยายามถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีท่าทีเปลี่ยนไป และมีท่าทีเชิงข่มขู่ว่า “คุณมีบุหรี่ไฟฟ้า พวกคุณต้องไปสถานีตำรวจ และอาจต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน”

ในเวลานั้น มีตำรวจ 3 คนที่ สกาย ต้องเจรจาด้วย เพราะเป็นบุคคลในเดียวในกลุ่มที่พอจะพูดภาษาไทยได้ โดยตำรวจนายหนึ่ง ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

สกาย จึงสอบถามตำรวจว่า “จะให้พวกเราทำอย่างไร” เพราะเขาไม่ได้พกหนังสือเดินทางมา แต่ด้วยความที่เป็นคนสิงคโปร์ ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ตำรวจไม่ยอม ระบุว่าต้องมีหนังสือเดินทางตัวจริง จากนั้น ตำรวจจึงระบุว่า “ขอคุยกับตำรวจยศใหญ่ก่อน”
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, นายชูวิทย์ เป็นผู้เชิญให้สกายมาแถลงข่าวในครั้งนี้“เขาก็กลับมาบอกว่า บุหรี่ไฟฟ้ามี 3 แท่ง ต้องจ่ายแท่งละ 8 พันบาท และเมื่อรวมกับการไม่มีหนังสือเดินทาง รวมเป็น 27,000 บาท” สกาย ย้อนบทสนทนาของเขากับตำรวจเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 “ผมก็บอกโอเค”

ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายกายจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ถึงสิ่งที่เขาและเพื่อน ๆ เจอ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากการจะดำเนินคดีในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน ไม่ได้ถูกข่มขู่บังคับ ดังนั้น การสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงสำคัญมาก และเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน โดยทีมสอบสวนได้เตรียมรูปถ่าย ตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้ง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลัก ๆ คือ จ่ายเงินให้กับใคร, ใน 14 คนนี้มีใครบังคับขู่เข็นเรียกเงิน, และมีใครมีส่วนรู้เห็นจาการรีดรับเงินในครั้งนี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย, ชาลีน อัน, และเพื่อนอีก 2 คนสกาย เล่าว่า เขาเดินทางมาไทยบ่อยครั้ง ครั้งล่าสุด เดินทางมาอยู่ไทยตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2565 เพื่อท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ด้วยสถานะพลเมืองสิงคโปร์ เขาจึงไม่ต้องทำวีซ่า เพื่อพำนักไม่เกิน 30 วัน

ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจไทยที่พวกเขาเจอที่ด่านในคืนวันที่ 5 ม.ค. 2566 จึงคะยั้นคะยอจะดูหนังสือเดินทาง และตรวจว่าเขามีวีซ่าหรือไม่

ส่วนการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้น เขายอมรับว่า ไม่ทราบเลยว่าการซื้อและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่เคยมีประกาศแจ้งนักท่องเที่ยว
ที่มาของภาพ, BBC Thaiคำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน หรือ อัน อวี๋ฉิง นักแสดงสาวไต้หวัน“ถ้าบอกบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ทำไมที่ตลาดขายได้ เพราะผมซื้อที่ห้วยขวาง และเห็นขายทั่วไป ทุกคนก็ใช้อยู่ ไม่เห็นมีปัญหา” สกาย กล่าว

“กัญชายังเปิดร้านขายได้เลย ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย” เขาบอกว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตำรวจที่เขาพูดคุยอยู่มีท่าที “โมโห” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สกายจึงพยายามเจรจาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “ขอโอกาสพวกเขาได้ไหม” แต่ตำรวจตอบกลับว่า “ไม่ได้ ต้องไปโรงพัก” พร้อมขู่ว่า ถ้าไปโรงพักจะต้องถูกจับขังคุกอย่างน้อย 2 วัน

สถานการณ์จึงเป็นในลักษณะที่นายชูวิทย์สรุปว่า ตำรวจข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและสิงคโปร์ว่า จะถูกจับขังหากไปที่สถานีตำรวจ และเมื่อ สกาย ถามว่า “แล้วจะต้องทำยังไง” ตำรวจจึงเรียกรับเงินสำหรับนักท่องเที่ยว 4 คน บุหรี่ไฟฟ้า 3 แท่ง และไม่มีหนังสือเดินทาง เป็นเงิน 27,000 บาท
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์ ก้มโค้ง “ขอโทษแทนตำรวจไทย”แต่พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของตำรวจ คือ ให้ สกาย นับเงิน พร้อมชี้ไปทางบริเวณสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อให้สังเกตกล้องวงจรปิด แต่เมื่อกำลังจะยื่นเงินให้ ตำรวจทำท่าทางให้สกาย และเพื่อน ๆ ยืนบังทิศทางของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เห็นพฤติการณ์รับเงินของตำรวจ

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา สอดคล้องกับที่ ชาลีน อัน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยก่อนหน้านี้ คือ “ตำรวจเก็บเงินไป แล้วยื่นบุหรี่ไฟฟ้า (ของเขาและเพื่อน) ให้ผมแล้วถ่ายรูป ยื่นให้ชาลีน และคนอื่น ๆ แล้วถ่ายรูปด้วย” โดยสกายเสริมว่า ในขณะนั้น ชาลีน อัน มีท่าทางเหนื่อยและเครียดมาก

“ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องให้เงิน ถ้าผมมีทางเลือกผมคงไม่ทำหรอก” สกาย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่ให้จ่ายเงินสินบนแก่ตำรวจ
ทำไมถึงไปห้วยขวางต่อการแถลงข่าวของ สกาย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของชาลีน อัน กับบีบีซีไทย ที่เธอยืนกรานว่า ไม่ได้พกบุหรี่ไฟฟ้าออกไปด้วยในวันนั้น แต่เธอไม่เคยปฏิเสธว่า ไม่เคยครอบครองและสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ชาลีน อัน ยังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงกรณีปรากฎภาพเธอและเพื่อน ๆ ไปเดินตลาดกลางคืนที่ห้วยขวาง ว่า เธอไปเดินตลาดกลางคืนแถวห้วยขวางต่อจริง เพราะวางแผนจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารในแถบนั้นอยู่แล้ว และตลาดแห่งนั้นก็อยู่ใกล้กับร้านอาหาร

ข้อมูลจากสกายทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น โดยสกายเล่าว่า ชาลีน อัน “รู้สึกโกรธมาก” จึงอยากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อที่ห้วยขวาง ซึ่งเขาได้ตามไปสมทบภายหลังนั่งแท็กซี่ไปส่งเพื่อนที่โรงแรม

ในกลุ่มเพื่อนราว 10 คน รวมถึงชาลีน อัน และสกาย ด้วย มีคนไทยที่เขาเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งคนไทยแนะนำว่า ครั้งหน้าอย่าพกเงินสดเยอะ และให้พกพาหนังสือเดินทาง เพื่อไม่ให้ตำรวจรีดไถเงินได้เช่นนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต่อมา ชาลีน อัน ได้นำไปโพสต์ในอินสตาแกรม และกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมไทยในเวลาต่อมา
ที่มาของภาพ, .คำบรรยายภาพ, ชาลีน อัน ไปแถวห้วยขวางต่อหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสกาย ยังเปรียบเทียบว่า สถานการณ์ที่พวกเขาเจอนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในสิงคโปร์เอง เขาก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่า การกระทำของตำรวจไทยกับพวกเขา “ไม่มีเหตุผล” และทำให้เขา “กลัว”

ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้โค้งและกล่าวขอโทษ สกาย แทน “ตำรวจไทย” ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้านั้น นายชูวิทย์ ระบุว่า “ชาวต่างชาติเขาจะรู้ไหม ก็เปิดขายกันทั่วไปตลาดห้วยขวาง ทองหล่อก็มี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ขายได้ยังไง”
มาตรการของตำรวจจนถึงตอนนี้ ผบ.ตร. ได้เซ็นย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพื่อเปิดทางให้กรรมการสอบสวนดำเนินการได้เต็มที่ และเป็นการลงโทษทางปกครองในฐานะ “เป็นหัวหน้าสถานีไม่สามารถควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด”

และวานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ จำนวน 5 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านที่ สกาย และ ชาลีน อัน เผชิญในเช้ามืดวันที่ 5 ม.ค. โดยมีรายชื่อดังนี้

ร.ต.อ. ยอดฤทธิ์ ลางดุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ร.ต.อ. ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. อธิเวช จุลพันธ์ ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ด.ต. กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ส.ต.อ. วัชรนนท์ ขาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง
ส.ต.อ. นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
ที่มาของภาพ, Thai News Pixคำบรรยายภาพ, ชูวิทย์นำปี๊บมาเพื่อให้ตำรวจ “คลุมศีรษะ”อย่างไรก็ดี นายชูวิทย์ วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจนครบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นการลงโทษตำรวจชั้นผู้น้อยของนายตำรวจระดับสูง เพื่อปกป้องตำแหน่งของตนเอง

“ตำรวจไม่ได้ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องตัวเอง ปกป้องตำแหน่ง ลงโทษแต่ตำรวจชั้นผู้น้อย”
ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ? การนำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 4 เท่าของราคา หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของทันที ตามกฎหมายมาตรา 242 ใน พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560

หากพบบุคคลใดว่าครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตำรวจสามารถใช้มาตรา 246 ว่าด้วย ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น การนำเข้า การผลิต การจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายชัดเจน แต่ส่วนของผู้ครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีความผิดโดยตรง แต่ก็จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 246 ตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย